เมนู

คำถามและคำตอบสัปปาณกวรรคที่ 7


[126] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้แกล้งฆ่าสัตว์
ให้ตาย ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภท่านพระอุทายี
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่ท่านพระอุทายีแกล้งฆ่าสัตว์ให้ตาย.
มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐาน 3. . .
[127] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้รู้อยู่บริโภคน้ำ
มีตัวสัตว์ ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์รู้อยู่ บริโภคนำมีตัวสัตว์.
มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐาน 3 . . .

[128] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้รู้อยู่พื้นอธิกรณ์
ที่ทำเสร็จแล้วตามธรรม เพื่อทำอีก ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์รู้อยู่ พื้นอธิกรณ์ที่ทำเสร็จแล้วตาม
ธรรมเพื่อทำอีก.
มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐาน 3. . .
[129] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้รู้อยู่ปิดอาบัติ
ชั่วหยาบของภิกษุ ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภภิกษุรูปหนึ่ง
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุรูปหนึ่งรู้อยู่ปิดอาบัติชั่วหยาบของภิกษุ.
มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐานอันหนึ่ง คือ เกิดแต่กาย วาจา และจิต. . .

[130] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้รู้อยู่ยังบุคคลผู้มี
อายุหย่อน 20 ปี ให้อุปสมบท ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครราชคฤห์
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภภิกษุหลายรูป
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุหลายรูปรู้อยู่ยังบุคคลมีอายุหย่อน 20 ปี ให้
อุปสมบท.
มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐาน 3 . . .
[131] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้รู้อยู่ชักชวนแล้ว
เดินทางไกลสายเดียวกันกับพวกพ่อค้าผู้เป็นโจร ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภภิกษุรูปหนึ่ง
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุรูปหนึ่งรู้อยู่ ชักชวนเดินทางไกลสายเดียวกัน
กับพวกพ่อค้าผู้เป็นโจร.

มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐาน 2 คือ บางทีเกิดแต่กายกับจิต มิใช่วาจา บางทีเกิดแต่กาย วาจา
และจิต . . .
[132] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้ชักชวนเดินทาง
ไกลสายเดียวกันกับมาตุคาม ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภภิกษุรูปหนึ่ง
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุรูปหนึ่งชักชวน เดินทางไกลสายเดียวกันกับ
มาตุคาม.
มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐาน 4. . .
[133] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้ไม่สละทิฏฐิอัน
ชั่วช้า เมื่อสวดสมนุภาสน์จบหนที่ 3 ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภพระอริฏฐะ ผู้เคยเป็นคนฆ่าแร้ง
ถ. เพราะเรื่องอะไร

ต. เพราะเรื่องที่พระอริฏฐะ ผู้เคยเป็นคนฆ่าแร้ง ไม่สละทิฏฐิอัน
ชั่วช้า เมื่อสวดสมนุภาสน์จบหนที่ 3.
มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐานอันหนึ่ง คือ เถิดแต่กาย วาจา และจิต . . .
[134] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้รู้อยู่กินร่วมกับ
พระอริฏฐะผู้กล่าวอย่างนั้น มีธรรมอันสมควรยังไม่ได้ทำ ยังไม่ได้สละทิฏฐิ
นั้น ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์
ถ. เพราะเรืองอะไร
ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์ รู้อยู่กินร่วมกับพระอริฏฐะ ผู้กล่าว
อย่างนั้น มีธรรมอันสมควรยังไม่ได้ทำ ยังไม่ได้สละทิฏฐินั้น.
มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐาน 3 . . .
[135] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้รู้อยู่เกลี้ยกล่อม
สมณุทเทสผู้ถูกสงฆ์นาสนะอย่างนั้นแล้ว ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์

ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์ รู้อยู่เกลี้ยกล่อมกัณฑกะ สมณุทเทส
ผู้ถูกสงฆ์นาสนะอย่างนั้นแล้ว.
มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐาน 3 . . .
สัปปาณกวรรค ที่ 7 จบ

หัวข้อประจำวรรค


[136] แกล้งฆ่าสัตว์ให้ตาย 1 บริโภคน้ำที่มีตัวสัตว์ 1 พื้นอธิกรณ์
ที่ทำเสร็จแล้วตามธรรม 1 รู้อยู่ปิดอาบัติชั่วหยาบ 1 อายุหย่อน 20 ปี 1
ชักชวนเดินทางกับพวกพ่อค้าผู้เป็นโจร 1 ชักชวนเดินทางกับมาตุดาม 1ํ กิน
ร่วม 1 เกลี้ยกล่อมสมณุทเทสผู้ถูกสงฆ์นาสนะแล้ว 1.

คำถามและคำตอบสหธรรมิกวรรคที่ 8


[137] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต
สัมมาสันพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้อันภิกษุทั้งหลาย
ว่ากล่าวอยู่โดยชอบธรรม กล่าวว่า แนะเธอ ฉันจักยังไม่ศึกษาในสิกขาบทนี้
ตลอดเวลาที่ยังไม่ได้สอบถามภิกษุอื่นผู้ฉลาด ผู้ทรงวินัย ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครโกสัมพี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภท่านพระฉันนะ
ถ. เพราะเรื่องอะไร